5 อันดับช่องทางการจ้างงานที่ HR และผู้สรรหาทุกคนควรใช้

บริษัทสามารถเข้าถึงการสรรหาบุคลากรได้หลายวิธี และบางช่องทางการสรรหานั้นก็สามารถจะใช้วิธีเดิมได้ไม่ว่าจะเป็นประเภทธุรกิจด้านไหนก็ตาม หรือสถานที่่ตั้งที่เปลี่ยนไป รวมถึง ความต้องการด้านคุณสมบัติของผู้สมัคร ซึ่งช่องทางการสรรหาบุคลากรหลักเหล่านี้ เป็นรากฐานที่สำคัญของ HR และผู้สรรหาทุกคนที่มุ่งเน้นหาผู้ที่มีความสามารถ

การเรียนรู้กุญแจสำคัญของการสรรหาเหล่านี้ทำให้บริษัทต่างๆ สามารถได้ผู้สมัครตามเป้าหมายได้มากขึ้น เข้าถึงช่องทางใหม่ๆ และปรับปรุงการสรรหาบุคลากร ทั้งในรูปแบบที่สรรหาด้วยตัวเองและรูปแบบที่ทำให้มีผู้ที่มีความสามารถมาสมัครเอง ช่องทางเหล่านี้ใช้กันอย่างแพร่หลายเนื่องจากมีประสิทธิภาพที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว และเนื่องจากนายจ้างรู้ว่าช่องทางเหล่านี้ยังคงเป็นช่องทางที่ตรงและประหยัดที่สุดในการเข้าถึงผู้สมัคร

1.เว็บสมัครงาน


บอร์ดการรับสมัครงานเป็นช่องทางการสรรหาบุคลากรทางดิจิทัลอันดับหนึ่ง นับตั้งแต่การเพิ่มขึ้นในรูปแบบของโพสต์สั้นๆ ในฟอรัม และประกาศงานออนไลน์ต่างๆ ได้เติบโตขึ้นจนกลายเป็นเสาหลักที่แข็งแกร่งของตลาดการจ้างงานในปัจจุบัน

แพลตฟอร์มเช่น Indeed, Glassdoor, Monster และอื่นๆ อีกมากมายเป็นพื้นที่สำหรับนายจ้างและผู้สมัครในการค้นพบกันและกัน แม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นฝ่ายของผู้สมัครที่ค้นพบ แต่ก็มีบอร์ดการรับสมัครงานบางแห่ง ที่ให้บริษัทสามารถรค้นหาผู้สมัครเก่งๆ ได้โดยตรง

แม้ว่าแพลตฟอร์มเหล่านี้จะทำให้บริษัทได้ผู้สมัครที่กำลังมองหา แต่บริษัทก็ควรเพิ่มโอกาสในการได้รับผู้สมัครที่น่าสนใจอยู่เสมอ ดังนั้นบริษัท ไม่ควรใช้เว็บประกาศหางานแค่แหล่งเดียว เพราะแต่ละแพลตฟอร์มก็มีจุดแข็งที่แตกต่างกันออกไปเพื่อทำให้ประกาศรับสมัครงานสามารถเข้าถึงผู้สมัครงานได้มากที่สุด


และนี่คือวิธีที่จะทำให้ประกาศรับสมัครงานของคุณโดดเด่น:

ชื่อตำแหน่งที่ดึงดูดใจ: ชื่อตำแหน่งต้องสามารถดึงดูดความสนใจและสร้างความอยากรู้อยากเห็นได้ ควรจะสามารถถ่ายทอดความรู้สึกของวัฒนธรรมองค์กรของคุณภายในไม่กี่คำ

ใช้คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง: คำที่ใช้ในการค้นหาที่มีประสิทธิภาพเป็นปัจจัยหลักที่จะสร้างความสำเร็จทางช่องทางออนไลน์ต่างๆ อย่าลืมใส่คำสำคัญที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงาน ประเภทอุตสาหกรรม คุณสมบัติผู้สมัครงาน และลักษณะของงาน

อย่าลืมการมีมนุษย์สัมพันธ์: การสร้างความรู้สึกเชิงบวกที่ดีเป็นส่งที่มีคุณค่ามาก เพราะมันเป็นช่องทางที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับการอยากทำงานกับบริษัทของเรา

การใช้เทคนิคการตลาดโดยการเล่าเรื่อง: คุณต้องอธิบายตำแหน่ง หน้าที่ที่คาดหวัง และรายละเอียดทั้งหมดเหล่านั้น แต่ที่สำคัญกว่านั้น คุณต้องการขายตำแหน่ง ผลประโยชน์ ข้อดีของบริษัทของคุณ และวัฒนธรรมของบริษัท อย่ากังวลที่จะใช้เทคนิคการเล่าเรื่องมาใช้ในตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร

2- หน้าเว็บรับสมัครของบริษัท

เว็บไซต์ของคุณเป็นจุดขายที่ทรงพลัง นั่นคือประเด็นทั้งหมดในการเป็นตัวแทนดิจิทัลของบริษัทของคุณ เว็บไซต์ที่สร้างมาอย่างดีสามารถเปลี่ยนผู้ที่ต้องการเข้ามาดูข้อมูลเท่านั้น ให้กลายเป็นลูกค้าที่จ่ายเงิน และผู้เข้าชมที่อยากรู้อยากเห็นจนกลายเป็นผู้สมัครของเราในที่สุด

เว็บไซต์ของคุณช่วยขายแบรนด์ของคุณได้มากพอๆกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ เมื่อผู้หางานพบว่าตัวเองกำลังดูเว็บไซต์ของคุณ ความสนใจของพวกเขามักจะทำให้พวกเขาเข้ามาที่หน้า "รับสมัครงาน" ของบริษัท

เว็บไซต์เป็นสิ่งที่ต้องมีสำหรับทุกบริษัท และต้องเป็นไปตามกฎของการมอบประสบการณ์ผู้ใช้ที่ราบรื่น ผู้ที่ต้องการจะซื้อผลิตภัณฑ์ของคุณจะต้องสามารถการดำเนินการซื้อได้อย่างง่ายดาย เช่นเดียวกันกับผู้ที่ต้องการสมัครงาน

ก่อนหน้านี้หน้าเว็บสมัครงานเหมือนขั้นตอนที่ชี้เป็นชี้ตายว่าผู้สมัครที่มีศักยภาพจะตัดสินใจสมัครงานกับ
บริษัทหรือไม่ และทางการจำกัดประสบการณ์ของพวกเขาโดยไม่ระบุช่องทางการรับสมัครงานไว้  อาจทำให้ผูสมัครที่มุ่งมั่นบางคนยังคงพยายามที่จะติดต่อกับคุณ แต่คนส่วนใหญ่ก็มักจะยอมแพ้ไปที่ขั้นตอนนี้

การเพิ่มประสิทธิภาพหน้าอาชีพของคุณเป็นไปตามกฎที่เรากล่าวถึงข้างต้นสำหรับหน้ารับสมัครงาน มีองค์ประกอบของ SEO ที่นายจ้างควรทราบ ซึ่งทำให้คีย์เวิร์ดที่ใส่ในประกาศรับสมัครงาน เป็นทรัพย์สินที่มีค่ามาก นอกจากนี้ ชื่อตำแหน่งที่ดึงดูดใจและข้อความที่สร้างแรงบันดาลใจก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน

3- การแนะนำจากพนักงาน

บางทีอาจจะเป็นช่องทางที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดและช้าที่สุดจากช่องทางทั้งหมดเหล่านี้ การแนะนำจากพนักงานเป็นวิธีที่นายจ้างชื่นชอบ เนื่องจากใช้ความพยายามเพียงเล็กน้อยและมีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด การแนะนำจากพนักงานสามารถบริษัทได้ผู้ที่มีความสามารถที่สุดเท่าที่บริษัทจะสามารถสรรหาได้

เมื่อพิจารณาถึงความสัมพันธ์ระหว่างผู้สมัครงานกับพนักงานที่ได้แนะนำมา มันปลอดภัยที่จะบอกว่าพนักงานรู้จักบริษัทดี และรู้วิธีดำเนินการภายใน เข้าใจวิธีที่ทีมสื่อสารกัน ประโยชน์เพิ่มเติมของการทำงานร่วมกับเพื่อนหรือคนรู้จักที่อ้างอิงมาสามารถเป็นแรงจูงใจที่ทรงพลัง

น่าเศร้าที่การอ้างอิงจากพนักงานไม่สามารถใช้ประโยชน์จากความสามารถที่นายจ้างชอบใช้มากที่สุด แต่เป็นหนึ่งในช่องทางหาผู้สมัครแบบ passive ที่มีโอกาส 50-50 ที่จะจ้างงานสำเร็จ สิ่งที่ดีที่สุดที่นายจ้างสามารถทำได้ในเรื่องนี้คือการจูงใจพนักงานและสนับสนุนให้พวกเขาแนะนำเพื่อนหรือคนรู้จักเพื่อแลกกับโบนัสหรือรางวัลที่เป็นตัวเงิน

อาจเป็นดูไม่ดีเท่าใดนักที่จะพึ่งพาวิธีนี้ แต่จะยิ่งดูแย่มากขึ้นที่จะไม่ส่งเสริมหรือสนับสนุนวิธีการนี้

4- โซเชียลมีเดีย

การใช้ประโยชน์จากสื่อสังคมออนไลน์มักจะดูชวนให้สงสัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากบริษัทไม่เคยใช้ช่องทางเหล่านี้มาก่อน

แต่โลกได้เปลี่ยนไปแล้ว และวิธีที่จะสามารถเข้าถึงผู้ฟัง นายจ้างจำเป็นต้องพูดคุยกับพวกเขาในทีที่พวกเขามักจะใช้เวลาไปกับมัน โซเชียลมีเดียเป็นวิธีที่รวดเร็วที่สุดของโลกดิจิทัลและเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเชื่อมต่อโดยตรงและทันทีกับผู้สมัครที่มีศักยภาพ

ในความเป็นจริง เช่นเดียวกับที่พวกเขาทำการค้นหาที่ซับซ้อนบนแพลตฟอร์มกระดานรับสมัครงาน ผู้หางานมักจะใช้ประโยชน์จากกลุ่มโซเชียลมีเดียให้มากที่สุดเพื่อหางาน พูดคุยเฉพาะเจาะจง มีส่วนร่วมในชุมชน หรือแม้แต่ถามผู้อื่นว่าพวกเขารู้อะไรเกี่ยวกับสถานที่ทำงานแห่งใดแห่งหนึ่งในช่องทางโซเชี่ยลมีเดีย

ประเด็นคือ โซเชี่ยลมีเดียคือที่ที่พวกเขาใช้เวลาส่วนใหญ่ และการใช้ช่องทางเช่น Facebook, Instagram และ LinkedIn สามารถให้ผลลัพธ์ที่ดีมาก นอกจากนี้ยังมีแง่มุมของชุมชนด้วย เนื่องจากโพสต์งานเปิดหนึ่งโพสต์บน Facebook สามารถแชร์โดยคนหลายคนในหลายพื้นที่เพื่อเพิ่มจำนวนผู้ที่เห็นมากที่สุด

5- การค้นหาผู้สมัครจากฐานข้อมูลผู้สมัครงานในอดีต

การค้นหาผู้สมัครจากฐานข้อมูผู้สมัครงานในอดีตคือแนวทางปฏิบัติในการทบทวนฐานข้อมูลผู้สมัครที่มี
อยู่ของคุณ จากเรซูเม่ที่ได้มาก่อนหน้านี้ซึ่งอาจเหมาะกับตำแหน่งที่ว่างใหม่พอดี แนวทางปฏิบัตินี้ช่วยลดความยุ่งยากในการสรรหาบุคลากรในวงกว้าง นอกจากนี้ การเรียกดูข้อมูลผู้สมัครที่มีอยู่เพื่อหาผู้ที่เหมาะสมกับตำแหน่งนั้นง่ายกว่าการสรรหาใหม่

ซึ่งอาจเป็นเรื่องยากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของบริษัทที่ยังใช้ spreadsheet และเครื่องมือแบบดั้งเดิมสำหรับการสรรหาบุคลากร ฐานข้อมูลผู้สมัครเหล่านี้สามารถเข้าถึงเรซูเม่ได้ครั้งละหลายพันรายการ ทำให้เป็นงานที่สำคัญและเหนื่อยยากสำหรับบริษัทในการดำเนินการ และเป็นการเสียเวลาของHRและผู้สรรหาโดยไม่จำเป็น

อย่างไรก็ตาม บริษัทที่ใช้โซลูชัน ATS จะพบว่าสิ่งนี้ง่ายมาก ระบบติดตามผู้สมัครที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เช่น Manatal สามารถทำให้งานนี้เป็นแบบอัตโนมัติได้ ผู้ใช้สามารถใช้ฟังก์ชัน AI เพื่อให้คำแนะนำที่ให้คะแนนโดยอิงจากการเปรียบเทียบทักษะของผู้สมัครแต่ละคนกับข้อกำหนดของคุณลักษณะที่บริษัทต้องการ ทำให้ฐานข้อมูลของผู้สมัครใช้งานได้ตลอดเวลา และช่วยประหยัดเวลาและความพยายาม

รวมทุกช่องไว้ในแพลตฟอร์มเดียว

คุณมีบอร์ดรับสมัครงานงานพร้อมแล้ว คุณออกแบบหน้าเว็บไซต์รับสมัครของคุณอย่าางดีแล้ว และคุณได้สนับสนุนให้ทีมของคุณแนะนำเพื่อนของพวกเขา คุณได้เริ่มใช้ประโยชน์จากโซเชียลมีเดีย และทุกอย่างเป็นไปด้วยดี

สิ่งสำคัญในที่นี้คือการตรวจสอบติดตามทุกช่องทางที่ใช้โดยไม่ต้องใช้เวลาหรือความพยายามมากเกินไป ซึ่งสามารถทำได้โดยการรวมช่องทางการรับสมัครทั้งหมดของคุณไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ตัวอย่างเช่น ซอฟต์แวร์การสรรหาบุคลากรของ Manatal ทำให้สามารถรวมแพลตฟอร์มกับกระดานรับสมัครงาน โซเชียลมีเดีย และหน้าเว็บรับสมัครงาน เพื่อรับใบสมัครทั้งหมดโดยตรงบน Manatal

จากนั้น ATS จะแยกวิเคราะห์และวิเคราะห์ประวัติย่อแต่ละรายการ สร้างโปรไฟล์ผู้สมัครแบบองค์รวมสำหรับกลไก AI เพื่อแนะนำสำหรับตำแหน่งที่เปิดอยู่ในปัจจุบันของคุณ ระบบติดตามผู้สมัคร คืออนาคตของการจัดการข้อมูลการสรรหา การสรรหาผู้สมัคร และคำแนะนำที่ขับเคลื่อนโดย AI

ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ HR และผู้จัดหางานทั่วโลก แต่ยังเป็นโอกาสในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่ทรงพลังและการวิเคราะห์ทางด้านHR เพื่อขับเคลื่อนกลยุทธ์การจ้างงานของคุณให้ล้ำสมัย

คลิกที่นี่ เพื่ออ่านข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เทคโนโลยีการสรรหาบุคลากรและ HR ที่ล้ำสมัยของเรา หรือคลิกที่นี่เพื่อการทดลองใช้ฟรี 14 วันของเรา

Try Manatal for free during 14-day with no commitment.

No credit card required
No commitment
Try it Now