8 ขั้นตอนในการเริ่มตั้งบริษัทจัดหางาน

เหล่าบริษัทจัดหางานไม่เพียงหาผู้สมัครงาน และติดต่อผู้สมัครให้บริษัทลูกค้าเท่านั้น แต่พวกเขายังมีเป้าหมายที่จะให้ทางเลือกที่ดีกว่าในหน้าที่การงานของผู้สมัคร การที่ทั้งสองฝ่ายได้ผลประโยชน์รว่มกัน เป็นสิ่งที่สร้างแรงจูงใจในการทำงานของผู้สรรหาในทุกวัน

ขั้นตอนที่ 1 ประเมินช่องทางทางธุรกิจของคุณ

คุณต้องเริ่มจากการคิดว่า บริษัทคุณจะเป็นบริษัทจัดหางานแบบใด อาจจะเป็นบริษัทที่เน้นหาบุคลากรด้าน IT เท่านั้น หรือหาบุคคลด้านงานบริหาร ลองตรวจสอบเครือข่ายที่คุณมี ความรู้ของคุณที่เป็นจุดเด่น และเลือกตลาดที่คุณจะให้บริการด้านสรรหาบุคคล และต้องพิจารณาด้วยว่า ผู้หางานระดับไหนที่เรามีคอนเน็กชั่น ผู้ที่จบการศึกษาใหม่ หรือผู้ที่มีประสบการณ์มาหลายปีแล้ว ลองถามคำถามเหล่านี้กับตัวเองแล้วคุณจะเริ่มธุรกิจของคุณได้ดีขึ้น

ขั้นตอนที่ 2 ประเมินคู่แข่งของคุณ

เมื่อคุณเลือกกลุ่มลูกค้าแล้ว คุณควรรู้จักบริษัทคู่แข่งของคุณด้วย ใช้หลักการ SWOT ง่ายๆ ( จุดแข็ง , จุดอ่อน, โอกาส , อุปสรรค) และหลักงาน 4 Ps (ผลิตภัณฑ์,สถานที่,ราคา,โปรโมชั่น) วิเคราะห์สิ่งต่างๆเหล่านี้เพื่อ รู้จุดยืนของคุณเองและจะได้รู้ว่าควรพัฒนาตรงจุดไหน ดังคำกล่าวในสุภาษิตจีนที่ว่า รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง

ขั้นตอนที่ 3 ประเมินสถานะทางการเงินของคุณ

การเริ่มต้นบริษัทจัดหางานไม่ได้ใช้เงินลงทุนมากเหมือนบริษัทสตาร์ทอัพทั่วไป แต่อย่างไรก็ตาม คุณก็ควรที่จะพิจารณาต้นทุนเรื่องอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในสำนักงาน เช่นอุปกรณ์ดิจิตอล พนักงาน ประกันภัย และอื่นๆ ทำบันทึกค่าใช้จ่าย และหาที่ปรึกษาทางการเงินถ้าจำเป็น

ขั้นตอนที่ 4 หาข้อมูลด้านกฎหมายและข้อบังคับต่างๆ

บริษัทส่วนใหญ่ ให้ทนายและที่ปรึกษาด้านกฎหมายจัดการดูแลด้านกฎหมายที่เกี่ยวกับบริษัททั้งหมด แต่ ในฐานะผู้ก่อตั้งบริษัท คุณต้องศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้อง และกฎระเบียบต่างๆเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาด้านกฏหมายที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น กฏข้อบังคับเกี่ยงกับธุรกิจจัดหางาน ล่าสุดได้มีการกำหนดให้ธุรกิจด้านนี้ต้องปฏิบัติตาม PDPA เกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูล

ขั้นตอนที่ 5 เขียนแผนการตลาด

อันดับแรก ออกแบบโลโก้ และภาพลักษณ์ที่สะท้อนตัวตนของบริษัท ความประทับใจแรกสำคัญมากกว่าที่คุณคิด เมื่อคุณออกแบบภาพลักษณ์แล้ว ให้เริ่มร่างโครงสร้างแผนการตลาด และคิดว่าแต่ละขั้นตอนต้องใช้อุปกรณ์ และทักษะอะไรบ้าง ยกตัวอย่างเช่น ต้องใช้อุปกรณ์ด้านการออกแบบกราฟฟิกมากมายที่จำเป็นต้องใช้ และในการที่จำต้องติดต่อเพื่อหาลูกค้าและผู้สมัคร LinkedIn ก็เป็นสิ่งที่จำเป็น เลือกช่องทางติดต่อที่ถูกต้องทำให้มีชัยไปกว่าครึ่ง

ขั้นตอนที่ 6 ตั้งเป้าหมายของบริษัท

ถ้าคุณอยากที่จะเติบโตอย่างมาก เป้าหมายคือปัจจัยที่สำคัญ บริษัทจะประสบความสำเร็จได้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่ประสบการณ์ หรือผู้สมัครจำนวนมาก แต่เป้าหมายธุรกิจที่ชัดเชนก็สำคัญไม่แพ้กัน
ตั้งเป้าหมายระยะสั้นและเป้าหมายระยะยาวเพื่อที่จะสร้างแรงจูงใจให้กับเหล่านักสรรหาคนของบริษัทคุณ ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจจะตั้งเป้าหมาย เพิ่มลูกค้าประจำขึ้น 10% ใน 2 เดือน หรือขยายพื้นที่การให้บริการ ภายในครึ่งปี

ขั้นตอนที่ 7 ลงทุนให้กับเครื่องมือด้านเทคโนโลยี

ธุรกิจด้านการจัดหางานปัจจุบันนี้ขึ้นอยู่กับเครื่องมือด้านเทคโนโลยีอย่างมาก ถ้าคุณลงทุนถูกเครื่องมือ คุณจะประหยัดทั้งเงินและเวลา หนึ่งในสิ่งที่น่าเชื่อถือและใช้กันอย่าแพร่หลายในกลุ่มrecruitment agency คือระบบติดตามการสมัครของผู้สมัครหรือ Applicant Tracking System. เลือกใช้ Applicant Tracking System ที่สามารถรวบรวมข้อมูลผู้สมัครงานจาก LinkedIn ได้อัตโนมัติ ประเมินให้คะแนนผู้สมัครงานจากโปรไฟล์หรือเรซูเม่ของผู้สมัคร และ ติดตามสถานะการสมัครงานของผู้สมัครแต่ละคนได้อย่างง่ายดาย แล้วคุณจะพบว่าสามารถจัดการใบสมัครของผู้สมัครงานที่มีความสามารถได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย และทำให้คุณทำงานได้อย่างเป็นระบบ

ขั้นตอนที่ 8 ลงทุนในบุคลากร

ขั้นตอนสุดท้ายแต่ไมไ่ด้สำคัญน้อยไปกว่าข้ออื่นเลยคือ คุณจำเป็นต้องจ้างผู้สรรหาหรือ recruiters ที่ดี และลงทุนกับพวกเขา การรู้หลักการในการจ้างrecruiters จะทำให้คุณ ได้ recruiters ที่เก่งและมีประสบการณ์มากมาร่วมงานด้วย อย่างไรก็ตาม อย่าละเลย recruiters ที่ยังมีประสบการณืไม่มากนัก หาจุดแข็งของพวกเขาแต่ละคน และช่วยพัฒนาพวกเขา แล้วคุณจะขอบคุณตัวเองทีหลัง

และเมื่อคุณเตรียมพร้อมทุกอย่างแล้ว ก็ได้เวลาที่คุณจะเริ่มต้นกิจการด้านการจัดหาคนและงานของตัวเอง หากคุณกำลังหาตัวช่วยและอยากรู้ว่าManatal เป็นคำตอบของบริษัทคุณอย่างไร จองวันนี้เพื่อรับการสาธิต หรือ ลงทะเบียนเพื่อลองใช้ฟรี

Try Manatal for free during 14-day with no commitment.

No credit card required
No commitment
Try it Now